DEMCO ส่งสัญญาณไตรมาส 2/64 ฉายแววเด่น จากงานในมือรอบรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ากว่า 3.6 พันล้านบาท บิ๊กบอส “พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์” เผยแผนงานครึ่งหลังปีนี้จ่อเซ็นรับงานและร่วมประมูลงานภาครัฐ-เอกชน เพียบ ลุ้นสอบผ่านโรงไฟฟ้าชุมชน หนุนผลงานอนาคตเติบโตแข็งแกร่ง
นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/64 ที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน จากงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่อยู่ในระดับสูงกว่า 3,640 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2566 และในช่วงที่เหลือของปีนี้อยู่ระหว่างการเซ็นรับงานใหม่ และเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนธุรกิจในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
“แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่เรายังคงคว้างานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานใหม่ ทำให้ Backlog เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะมีงานใหม่ ๆ เข้ามาจากการลงทุนของภาครัฐ และเอกชน เพื่อรองรับการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย”
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ในส่วนของงานรับเหมาฯ ยังคงเน้นรับงานภาครัฐ ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งมีงานที่จะเปิดให้ประมูลอีกมูลค่ากว่า 1-2 หมื่นล้านบาท รวมไปถึงงานที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบไฟเบอร์ออฟติกของบริษัทเอกชน ที่จะมีการลงทุนในปี 2564 อีกทั้ง บริษัทยังมีโอกาสได้รับงานก่อสร้างเพิ่มจากบริษัทเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการโซลาร์ฟาร์ม จากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่องเฟสแรก 300 เมกะวัตต์ โดยเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาคเอกชนขอรับใบอนุญาต PPA ภายในปีนี้
ขณะเดียวกันยังได้ขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า ผ่านบริษัท เด็มโก้ เอ็นเนอร์จี แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดย DEMCO ถือหุ้นในสัดส่วน 100% เข้าถือหุ้นในบริษัท สะบ้าย้อย กรีน จำกัด ในสัดส่วน 60% เพื่อประกอบธุรกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ทั้งนี้ เป็นการเตรียมการเพื่อเข้าลงทุนในโครงการที่บริษัทจะยื่นเสนอการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก (โครงการนำร่อง) คาดว่าจะมีความชัดเจนในครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 1/64 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564) มีรายได้รวม 652.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 103.64 ล้านบาท หรือ 18.8% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวม 549.05 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 41.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.35 ล้านบาท หรือ 79% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 23.20 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งมอบงานให้กับลูกค้าได้ตามแผนงานที่วางไว้ แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19