แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีทีมผู้วิจัยขอถอนการวิจัยระหว่างรอการตีพิมพ์วารสารทางการแพทย์ระดับนานาชาติ กรณียาฟ้าทะลายโจรในการรักษาโรคโควิด -19 ที่มีคนเข้าใจว่าถูกปฏิเสธ ข้อมูลไม่พอ ฟ้าทะลายโจรใช้ไม่ได้จริงกับโควิด -19 จึงถูกตีกลับ ว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทีมนักวิจัยของไทยกรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ขอถอนงานวิจัยออกมาเองเป็นการชั่วคราวเพื่อแก้ไขตัวเลขสถิติที่พบเพิ่มเติม จากการเก็บข้อมูลเชิงรายละเอียดพบข้อผิดพลาดตัวเลขเล็กน้อยตรงผลคำนวณนัยยะสำคัญทางสถิติ ผลการทดลองสารสกัดฟ้าทะลายโจรกับอาการปอดอักเสบ ที่เดิมคำนวณว่า 0.03 และนำเสนอไปแต่เมื่อกลับมาพิจารณาอีกครั้ง พบนัยยะสำคัญทางสถิติอยู่ที่ 0.112 แม้จะเป็นตัวเลขเพียงเล็กน้อยแต่ในแง่ของงานวิจัยตัวเลขเล็กน้อยนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ นักวิจัยจึงมีความซื่อสัตย์และชัดเจนต่อผลลัพธ์ จึงดึงข้อมูลกลับมาเพื่อแก้ไขก่อนส่งกลับไปตีพิมพ์ในวารสารเดิมเพื่อแบ่งปันข้อมูลให้นักวิจัยทั่วโลก ไม่ได้เป็นการถูกปฏิเสธจากวารสารแต่ประการใด
ผลการศึกษาสารสกัดฟ้าทะลายโจร ยังคงเดิมคือมีผลต่อผู้ป่วยโควิด ที่มีอาการเล็กน้อยและมีแนวโน้มที่ได้ผลดี โดยเฉพาะลดการพัฒนาของโรคไม่ให้เดินหน้ารุนแรงขึ้นจนมีปอดอักเสบ การขอถอนงานวิจัยชั่วคราวกลับมาแก้ตัวเลขนี้จึงไม่ได้มีผลต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิดในประเทศไทยแต่อย่างใด ยาสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรและยาจากผงฟ้าทะลายโจร ยังคงเป็นสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีข้อบ่งใช้บรรเทาอาการของโรคหวัด และใช้ในผู้ป่วยโควิด -19 ที่มีอาการความรุนแรงน้อยเพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยโรคโควิด -19 ที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรไปแล้ว 107,728 คน ทั้งนี้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรแม้จะมีผลดีต่อการความรุนแรงของโรคแต่ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เพราะยังมีข้อห้ามใช้กับผู้แพ้ยาฟ้าทะลายโจร หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคตับ โรคไตและยังมีข้อควรระวังการใช้ร่วมกับยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิตด้วย จึงไม่ควรใช้เองพร่ำเพรื่อ