Home หน้าแรก 5 ปัจจัยเมกะเทรนด์ “อาชีพแห่งอนาคต”

5 ปัจจัยเมกะเทรนด์ “อาชีพแห่งอนาคต”

795
ผศ.ดร.วีรณัฐ โรจนประภา วิศวกรออกแบบชีวิต, ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านอารีย์ และสมาคมบ้านปันรัก

จากสถานการณ์โควิดที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในมนุษย์ทุกคน ในทุกวงการได้รับผลกระทบ เศรษฐกิจตกต่ำ ธุรกิจเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้ แต่ในอีกด้านวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ได้ทำให้เห็นถึงภูมิต้านทานของสินค้าและบริการที่ออกมาตอบสนองความต้องการแท้ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการแก้ปัญหาให้กับสังคมเป็นหลัก โดยเฉพาะปัญหาระดับโลกที่เรียกว่า SDGs ว่าสามารถเติบโต และอยู่รอดสวนกระแสวิกฤตดังกล่าวได้อย่างสวยงาม

ผศ.ดร.วีรณัฐ โรจนประภา วิศวกรออกแบบชีวิต, ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านอารีย์ และสมาคมบ้านปันรัก ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับ SDGs อาชีพแห่งอนาคต ว่าเป็น Mega Trend ของโลกในขณะนี้ ใครที่สามารถมองหาช่องทาง คว้าโอกาสทองในการแก้ปัญหา ปิดช่องว่างให้ผู้คนได้ก่อน ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก เพราะปัญหานี้เป็น “ความต้องการแท้” ที่ประเทศสมาชิกทั่วโลกประสบและต้องการให้แก้ไข รวมถึงต้องช่วยกันผลักดันให้แล้วเสร็จ ซึ่งหากมองในมุมของการทำธุรกิจ ใครที่สามารถนำงานของตนมาใช้ตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ก็จะได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลภายในไปจนถึงนักลงทุนระดับโลก ที่ปัจจุบันจะพิจารณาสนับสนุนองค์กรจากคะแนน SDGs score ด้วย

โดยองค์กรสหประชาชาติได้ทำการสำรวจและสรุปปัญหาระดับโลกออกมาเรียกว่า SDGs หรือ Sustainable Development Goals มีทั้งสิ้น 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประกอบไปด้วย 169 เป้าหมายย่อย (SDGs Targets) ที่มีความเป็นสากล เชื่อมโยงและส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยสามารถจัดกลุ่ม SDGs ตามปัจจัยที่เชื่อมโยงกันใน 5 มิติ (5P) ได้แก่

  • การพัฒนาคน(People) ให้ความสำคัญกับการขจัดปัญหาความยากจนและความหิวโหย และลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
  • สิ่งแวดล้อม(Planet) ให้ความสำคัญกับการปกป้อง ดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติ ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
  • เศรษฐกิจและความมั่งคั่ง(Prosperity) ส่งเสริมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีความสอดคล้องกับธรรมชาติ
  • สันติภาพและความยุติธรรม(Peace) สร้างสังคมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สงบสุข ไม่มีการแบ่งแยก
  • ความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา(Partnership) ความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อน

โดย เป้าหมายทั้ง 17 เป้าหมาย ประกอบด้วย

  • เป้าหมายที่  1: ขจัดความยากจน
  • เป้าหมายที่ 2:  ขจัดความหิวโหย สร้างความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมให้คนทุกวัยมีโภชนาการที่เหมาะสม
  • เป้าหมายที่  3: สร้างหลักประกันด้านสุขภาพ สุขภาวะที่ดี และส่งเสริมสวัสดิภาพสำหรับทุกคนในทุกวัย
  • เป้าหมายที่ 4: ส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  • เป้าหมายที่ 5: ส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สตรีและเด็กหญิง
  • เป้าหมายที่ 6: สร้างหลักประกันในการจัดการน้ำและสุขอนามัยสำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน
  • เป้าหมายที่ 7: สร้างหลักประกันให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ที่ยั่งยืนในราคาที่ย่อมเยา
  • เป้าหมายที่ 8: ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่ มีผลิตภาพ และการมีงานที่เหมาะสมสำหรับทุกคน
  • เป้าหมายที่ 9: สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีความทนทาน ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมและยั่งยืน และส่งเสริมนวัตกรรม
  • เป้าหมายที่ 10: ลดความไม่เสมอภาคภายในประเทศและระหว่างประเทศ
  • เป้าหมายที่ 11: ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มีภูมิต้านทานและยั่งยืน
  • เป้าหมายที่ 12: ส่งเสริมรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน
  • เป้าหมายที่ 13: มีกระบวนการจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว
  • เป้าหมายที่ 14: อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
  • เป้าหมายที่ 15: ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ลดการกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
  • เป้าหมายที่ 16: ส่งเสริมสังคมที่สงบสุขและครอบคลุมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้ทุกคนเข้าถึงความยุติธรรมและสร้างสถาบันที่มีประสิทธิผลรับผิดชอบและครอบคลุมในทุกระดับ
  • เป้าหมายที่ 17: เสริมความเข้มแข็งให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูสภาพหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน

ผศ.ดร.วีรณัฐ ยังได้กล่าวเสริมในประเด็นการหาอาชีพนี้อีกว่า “โดยส่วนตัวที่ผมให้คำปรึกษากับบุคคลทั่วไปในการหาอาชีพจาก SDGs พบว่า คนจำนวนมากมักนึกไม่ถึงในประเด็นปัญหาที่อยู่ใน 17 ข้อนั้นว่าเป็นปัญหาระดับโลก ทำให้ละเลยโอกาสงานนี้ไป จนเมื่อได้ศึกษาโดยเฉพาะเจาะลงลึกในรายละเอียดย่อยของแต่ละเป้าประสงค์ใน 17 ข้อ ซึ่งมีแยกย่อยไปอีกมากก็จะยิ่งทำให้เจองานที่ตนอยากทำและถนัดได้ง่าย จึงอยากแนะนำทุกคนที่กำลังแสวงหาแนวทางอยู่ได้ลองศึกษา SDGs อย่างละเอียด เพราะ SDGs เป็นโอกาสทองในการทำธุรกิจซึ่งให้ช่องทางได้อย่างครบถ้วน ครอบคลุมแบบไม่ต้องลงทุนเสียเงินทำวิจัยด้วยตนเอง และหากเราสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ ใส่นวัตกรรมลงไปในสินค้าและบริการควบคู่ลงไปด้วย ยิ่งทำให้ธุรกิจของเราแข็งแกร่ง ปราศจากคู่แข่ง สามารถเรียกได้อย่างเต็มปาก ธุรกิจของเราจะเติบโต อย่างมั่นคง และยั่งยืนไปพร้อมกัน

จากผลการศึกษาพบว่า นักศึกษาในวันนี้จำนวน 100 คน จะมีถึง 65 คน ที่ในอนาคตจะต้องประกอบอาชีพที่ยังไม่เคยมีในวันนี้ เพื่อแก้ปัญหาที่ยังไม่ปรากฏหรือเป็นปัญหาใหม่ที่อาจยังไม่ได้รับการแก้ไข นั่นหมายถึงหากใครสามารถเชื่อมโยงองค์ความรู้ ความสามารถ ทักษะของตนหรือขององค์กร ให้สามารถแก้ไขปัญหา SDGs ได้ก่อน เท่ากับกำลังทำอาชีพแห่งอนาคต ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน

สรุปได้ว่า SDGs อาชีพแห่งอนาคต คือ Mega Trend ที่จะเป็นโอกาสทองของคนที่มองเห็น แต่เป็นหายนะของคนที่มองข้าม” ใครที่คว้าโอกาสได้ย่อมประสบความสำเร็จ แต่ใครที่ละเลยย่อมถูกตัดโอกาสในการเติบโต ถูกตัดเงินสนับสนุนลงทุนจากภาครัฐและเอกชน และสุดท้ายจะล้มหายตายจากแวดวงธุรกิจในที่สุด SDGs ไม่ใช่เรื่องในระดับรัฐบาล เพราะ SDGs เป็นปัญหาระดับโลก ที่เราทุกคนซึ่งเป็นพลเมืองโลกต้องร่วมมือกันทำจึงจะประสบความสำเร็จ ที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้จากตัวเราเอง