จังหวัดกาญจนบุรีสั่งการหน่วยงานดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการลักลอบเดินทางเข้าประเทศและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวกัมพูชา เนื่องจากราชอาณาจักรกัมพูชาประกาศระงับการใช้จุดผ่านแดนถาวรในจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการชั่วคราว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินการในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้ออกประกาศควบคุมการปิดพื้นที่ใน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเกาะกง จังหวัดโพธิ์สัต จังหวัดพระตะบอง จังหวัดไพลิน จังหวัดบันเตียเมียนเจย จังหวัดอุดรเมียนเจย จังหวัดพระวิหาร และจังหวัดเสียมราฐ ซึ่งเป็นจังหวัดตรงข้ามกับจังหวัดชายแดนด้านราชอาณาจักรกัมพูชา รวมถึงการบังคับใช้มาตรการระงับการใช้จุดผ่านแดนถาวรระหว่างกัมพูชา-ไทยเป็นการชั่วคราว โดยไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้า-ออกระหว่างกัน ยกเว้นกรณีการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินและการขนส่งสินค้า เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 – 12 สิงหาคม 2564 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์เดลต้า โดยการระงับการใช้จุดผ่านแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย เป็นการชั่วคราวข้างต้น จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางกลับราชอาณาจักรกัมพูชาของแรงงานกัมพูชาในประเภทไทยซึ่งยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยอาจยังมีแรงงานกัมพูชาเดินทางไปถึงจุดผ่านแดนและไม่สามารถข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาได้ จนมีการตกค้างสะสมและกลายเป็นความแออัดในฝั่งไทย รวมทั้งอาจมีการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของหน่วยงานในพื้นที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
จังหวัดกาญจนบุรีจึงขอให้หน่วยงาน ส่วนราชการ และอำเภอ รับทราบมาตรการของฝ่ายกัมพูชา แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยและชาวกัมพูชาในพื้นที่ให้รับทราบ เฝ้าระวัง และป้องกันการเดินทางออกนอกพื้นที่ของแรงงานต่างด้าวกัมพูชา โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย ที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้อำเภอชายแดนเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการลักลอบเดินทางเข้าประเทศและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวกัมพูชา รวมทั้งการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ชายแดน หากมีความคืบหน้าในการประสานงานสำคัญในระดับท้องถิ่น จะต้องแจ้งให้จังหวัดทราบเพื่อดำเนินการประสานกระทรวงมหาดไทยในการกำหนดท่าทีในระดับประเทศต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ส่วนราชการ หน่วยงาน อำเภอ ดำเนินการตามข้อสั่งการโดยเคร่งครัด