Home หน้าแรก แนะลงทุนระยะยาวสะสมหุ้น 6 กลุ่มที่รับผลกระทบโควิด-19

แนะลงทุนระยะยาวสะสมหุ้น 6 กลุ่มที่รับผลกระทบโควิด-19

719

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มองว่า ช่วงวันอาทิตย์ราว 01.00 ทางรัฐบาลได้ออกมาตรการควบคุม COVID-19 โดยเนื้อหาที่กระทบกับตลาดหุ้นได้แก่

(1) ร้านอาหารในพื้นที่เขตควบคุมให้ซื้อกลับบ้านเท่านั้น

(2) ในพื้นที่ควบคุมโรงภาพยนตร์งดให้บริการ

(3) พื้นที่ก่อสร้างในจังหวัดที่ถูกควบคุมจะมีมาตรการคุมเข้ม เบื้องต้นเราประเมินจะกระทบกับกลุ่มร้านอาหาร (CENTEL M MINT) รถไฟฟ้า (BTS BEM) สื่อนอกบ้าน (PLANB VGI) รับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) ศูนย์การค้า (CPN CRC) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) อย่างไรก็ตามกับ SET INDEX เราเชื่อว่าผลกระทบไม่มากนักเนื่องจากมองว่าก่อนหน้านี้ที่ปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดราว 3.6% เป็นการสะท้อนของตลาดไปแล้วระดับนึง

ทั้งนี้ หากวันจันทร์ยังปรับฐานต่อมองแนวรับแถว 1550 +/- (อิง % ปรับฐานช่วงเมษายน 21 ที่เกิดการระบาดโดยนับจากจุดสูงสุดถึงต่ำสุด) ขณะเดียวกันมองเป็นจุดสำคัญในการเสี่ยงซื้อบนสมมติฐานที่สถานการณ์ควรจะดีขึ้นจากนี้ตามมาตรการคุมเข้ม โดยเฉพาะกลุ่มที่รับผลกระทบจาก COVID-19 ส่วนระยะสั้นมองว่ากลุ่มอิงต่างประเทศมีความน่าสนใจกว่าโดยเฉพาะส่งออกที่เติบโตตามเศรษฐกิจคู่ค้าและได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า (ASIAN CBG DELTA HANA KCE TU) รวมถึงกลุ่มน้ำมัน (PTT PTTEP) ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบโลกปรับเพิ่มขึ้น โดยประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้กรอบ 1550 – 1590

ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ได้แก่

(1) การหารือเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลในวันจันทร์แนะติดตามมาตรการ

(2) ภาคแรงงานสหรัฐในวันศุกร์ประจำเดือน มิ.ย. Bloomberg ประเมินตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 7 แสนตำแหน่งและอัตราการว่างงานที่ 5.7% เชื่อตลาดอยากเห็นตัวเลขที่ใกล้เคียงคาดหรือต่ำกว่าคาดเพื่อให้ FED ผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนรับความเสี่ยงต่ำแนะชะลอการลงทุน ส่วนนักลงทุนระยะยาวหากเกิดการปรับฐานเปิดโอกาสสะสมมากกว่าบนสมมติฐานที่ระยะยาวขึ้นไป COVID-19 จะคลี่คลาย เน้นหุ้นรับผลกระทบ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) รถไฟฟ้า (BTS BEM) รับเหมา (CK STEC) ร้านอาหาร (CENTEL M MINT) ศูนย์การค้า (CPN) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ส่วนนักลงทุนระยะสั้นแนะ (ASIAN CBG DELTA HANA KCE TU) โรงพยาบาล (BCH CHG)

ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 20 บาท) คาดกำไร 2Q21 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องในทุกธุรกิจอุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็งดีต่อเนื่อง แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มเติบโต และคาดมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกในช่วง 2H21-1Q22

BCH (ถือ / ราคาเป้าหมาย 21 บาท) เน้นเก็งกำไรระยะสั้นจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เห็นการระบาดสูง ซึ่งโรงพยาบาลจะเป็นผู้ได้ประโยชน์ ด้านผลประกอบการ 2Q21 โตเด่นทั้ง YoY และQoQ หนุนจากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 และการเลื่อนเปิดโรงพยาบาลใหม่ที่ลาวไป 3Q21